สิ่งที่ผมเห็นในจิตเป็นจริงขึ้นมาแล้ว ความตาย ผลของการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง จนเติบใหญ่หยั่งรากระบัดใบ จนออกดอกออกผล ผลของความเกลียดชังคือการทำลาย เริ่มจากการทำลายความเป็นมนุษย์ของคนอื่น ตามด้วยความชอบธรรมในการทำลายคนอื่น และจบลงด้ว ความตาย
ความตายที่นำความเศร้ามาเป็นเบื้องต้น ความเจ็บแค้นมาในท่ามกลาง และการอาฆาตทำลายในที่สุด
มนุษย์กระทำต่อกันดั่งนี้ วงจรแห่งกรรมจึงทำงานอย่างเที่ยงธรรม
ความเกลียดชังก็คือเมล็ดพันธุ์ที่รอจะเติบโต เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม การสืบต่อ การเติบโต จึงดำเนินไป
ความเกลียดชังที่ถูกเติมปัจจัย ให้ข้อมูล กระตุ้น สร้างความชอบธรรมในนามแห่งขั้วตรงข้ามของความเมตตา มันเติบโตจนผู้สร้างความเกลียดชังด้วยความดี ไม่อาจควบคุมความเกลียดชังด้วยความดีที่เป็นผู้สร้ืางความเกลียดชังได้ มันจึงเริ่มทำลาย ทำลายภายนอก และเป็นที่คาดการณ์ได้ สิ่งทิ่จะถูกทำลายต่อไปคือภายใน ภายในคือจิตใจของเขาเอง เมล็ดพันธุ์เล็กๆ เติบโตได้ด้วยสภาพที่เอื้ออำนวย หล่อหลอม และเมื่อเติบใหญ่ไม่อาจควบคุมได้เพราะเจตจำนงได้ถูกประทับไว้และสั่งสมมาจนแข็งกล้า
ความตายของมนุษยชาติ คนแล้วคนเล่า ไม่อาจชี้ทางให้คนมืดบอดได้เดินไปได้ ด้วยคนมืดบอดไม่อาจละทิ้งสิ่งที่ตนยึดถือ สิ่งที่ยึดถือปิดบังความสว่าง ความสว่างจึงไม่ปรากฏต่อคนที่ยึดถือมโนธรรมอันสมมุติกันมาอย่างต่อเนื่อง มโนธรรมที่เป็นจริงจากการยึดถือ เชื่อและเชื่อ จนไร้ความรู้สึก ความรู้สึกเมตตาที่ควรมีต่อมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าจะดำรงอยู่หรือสิ้นสุดลง
ถ้อยคำชักจูงให้เกลียดชัง ปลุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ เรามีความเกลียดชัง มีความต้องการทำลายอยู่ภายในเป็นธรรมดา เมื่อถูกกระตุ้น และมีสิ่งรองรับว่าไม่ผิด ไม่ผิดจากมโนธรรม มโนธรรมที่เรายึดถือ เราจึงมีความชอบธรรมที่จะเกลียดชัง และมีความชอบธรรมที่จะทำลาย
จากความเกลียดชังที่เติบโตในใจเรา ประกอบกับมโนธรรมที่เรายึดถือ มันสร้างพลังแห่งความเกลียดชังที่ยิ่งใหญ่ เรามีสิทธิ์ที่จะทำลาย เราสร้างสิทธิ์นั้น สิทธิ์แห่งการทำลายด้วยมายาที่ฉาบทาเคลือบไว้ด้วยมโนธรรม ในนามแห่งความดีตามมโนธรรมที่เรายึดถือ เราจึงทำลายสิ่งที่ตรงข้ามกับมโนธรรมที่เรายึดถืออย่างไม่มีเมตตา
เราไม่มีเมตตาด้วยความรู้สึกของเราไม่ทำงาน ความรู้สึกว่าเราเป็นมนุษย์ด้วยกัน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น จักทำกรรมอันใดไว้ก็ตาม ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลที่เรากระทำไว้ เราไม่มีแม้กระทั่งเมตตากับตัวเอง ว่าจะต้องรับผลของการทำลายจากมือของเรา ความเกลียดชังช่างมีพลังยิ่งนัก มันฆ่าแม้กระทั่งตัวผู้เกลียดชังเอง
ความตาย คนตาย ขอความเมตตาจงปรากฏกายเพื่อให้โลกนี้ยังดำรงด้วยความลำบากน้อย ความลำบากน้อยที่เป็นผลของความเมตตา
สัตว์ทำร้ายทำลายกันด้วยสัญชาตญาณของการดำรงอยู่ แต่มนุษย์ทำร้ายทำลายกันด้วยความเกลียดชัง ความเกลียดชังที่ถูกกระตุ้น ปลุกเร้า ให้เติบใหญ่มีพลังแห่งการทำลายอันประมาณมิได้
แม้ความเกลียดชังยังคงดำรงอยู่ในใจเรา แต่ความเมตตาก็ดำรงอยู่ในใจเราเช่นกัน
ดังนั้น เราจึงดำรงอยู่ได้ด้วยการอยู่ร่วมกันอย่าง เมตตาและเข้าใจกัน
เราจึงเป็นมนุษย์ที่ไร้ความเกลียดชัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น